ฝอยทอง

วัตถุดิบฝอยทอง

เวลาในการทำ 30 นาที
ส่วนผสมสำหรับ 2-3 ที่

1. ไข่แดงของไข่เป็ด     3 ฟอง
2.  ไข่แดงของไข่ไก่      2 ฟอง
3. กลิ่นดอกมะลิ             1/2 ชช.
4. ใบเตย                         1 ใบ
5. น้ำตาลทราย              600 ก.
6. น้ำเปล่า                      400 มล.
7. เทียนอบ                     1 ชิ้น
อุปกรณ์ที่ใช้  

กระทะทองเหลือง ชามผสม กระชอน กรวยทำฝอยทอง เทียนหอม

วิธีทำฝอยทอง

1. นำน้ำเปล่า น้ำตาลทราย ใบเตย กลิ่นมะลิ ลงต้มในกระทะทองเหลือง เปิดไฟแรง ห้ามคนเด็ดขาดไม่อย่างนั้นน้ำตาลจะตกผลึก
2. ตีไข่ไก่และไข่เป็ดให้เข้ากัน นำไปกรอด้วยกระชอนตาถี่ จากนั้นตักไข่ใส่กรวยสำหรับทำฝอยทอง
3. ตักใบเตยออก และหยอดไข่ให้เป็นสาย วนให้รอบกระทะทองเหลืองประมาณ 20- 30 รอบ ต่อ 1 ชิ้น
4. ใช่ไม้ปลายแหลม ค่อยๆช้อนฝอยทองขึ้นมาให้เป็นแผ่น วางพักไว้บนตะแกรง 30 นาที
5. จุดเทียนหอมให้มีควันขึ้นมา แล้วจึงดับไฟ นำเทียนหอม ขนมฝอยทอง อบรวมกันด้วยภาชนะปิด 10 นาที ก็จะได้ฝอยทองหอมๆไว้รับประทานแล้วค่ะ

ข้าวหม้อแกง

หม้อแกงถั่ว ขนมไทยง่าย ๆ เนื้อเนียนกริบ หอม หวาน มัน

ส่วนผสม ขนมหม้อแกง

    • ถั่วเขียวนึ่งบดละเอียด  200 กรัม
          • ไข่เป็ด (ขนาดใหญ่) 5 ฟอง
          • ใบเตย
          • น้ำตาลปี๊บ 250 กรัม (สูตรแม่สลิ่มใช้ 280 กรัม)
          • หัวกะทิ 400 กรัม 
          • หอมแดงซอย 50 กรัม (หรือมากน้อยตามชอบ)
          • น้ำมันพืช 

วิธีทำขนมหม้อแกง

• เริ่มต้นที่เจียวหอมแดงก่อน โดยใส่น้ำมันพืชลงในกระทะตามด้วยหอมแดง
 • เจียวให้เหลือง (แต่วันนี้เจียวไหม้ไปค่ะ)
• พอเป็นสีเหลืองก็ตักขึ้นได้เลย หรือเอาไปกรองน้ำมันออกก็ง่ายดี 
  • ตอกไข่ลงในชาม
 • นำใบเตยที่ล้างทำความสะอาดอย่างดีแล้วใส่ลงไป (เพื่อขยำให้ไข่ขึ้นฟู)
  • ล้างมือให้สะอาด ขยำใบเตยจนไข่ขึ้นฟู 
• ใส่น้ำตาลปี๊บลงไปขยำให้เข้ากันดี
  • แล้วตามด้วยหัวกะทิ ขยำอีกรอบให้เข้ากัน
 • และกรองด้วยผ้าขาวบางอีก 1 รอบ
 • หลังกรองเสร็จก็ใส่ถั่วเขียวนึ่งและบดลงไป
 • ใช้มือขยำหรือวน ๆ คน ๆ ให้ถั่วไม่เป็นก้อนเหมือนในภาพ
 • นำกระทะไปตั้งไฟเพื่อกวนส่วนผสมขนม 
• เริ่มจากใส่น้ำมันหอมเจียว 3 ช้อนโต๊ะ เพื่อให้ขนมมีกลิ่นหอมและชูรสชาติให้อร่อยขึ้น
• ใส่ส่วนผสมขนมลงไปกวน กวนไม่นานนะคะ ประมาณ 5 นาที หรือจนขนมข้นขึ้น 
 • พอเนื้อเข้ากันก็ยกลงเทใส่พิมพ์ เตรียมอบได้เลย
  • ขยับ ๆ ส่าย ๆ พิมพ์สักหน่อย (ส่ายก้นไปด้วยก็ได้นะคะ) ให้หน้าขนมเรียบเสมอกัน นำเข้าไป       อบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส ถึง 200 องศาเซลเซียส นาน 40 นาที (แล้วแต่เตาอบด้วยนะ  เช็กเตาตัวเองดี ๆ)
• สุกแล้วเอาออกจากเตา พักให้เย็นสักครู่ค่อยตัด
 • ตัดหม้อแกงให้เป็นชิ้นสวยงาม

ลูกชุบ

วิธีทำลูกชุบสูตรหวานหอมอร่อย สีสันสวยงามน่าทาน

   ลูกชุบ ขนมไทยมีความโดดเด่นด้วยรูปลักษณ์ที่มีสีสันสวยงามหน้าตาน่ารับประทานสุดๆ และมีรสชาติหวานหอมอร่อยมากเช่นกัน ขนมลูกชุบนั้นทำมาจากถั่วเขียวกวน ปั้นเป็นรูปต่างๆ เช่น ผลไม้ ส้ม มะม่วง มังคุด ฯลฯ สีสันสวยงาม หรือจะนำมาประยุกต์ทำเป็นของหวานอื่นๆก็ได้ เช่น วุ้นลูกชุบ ตกแต่งหน้าเค้กก็น่ารับประทานยิ่ง และนอกจากรับประทานเป็นของหวานแล้ว เรายังมอบให้เป็นของฝากหรือมอบในวันเทศกาลต่างๆได้อีกด้วย

แต่จริงๆแล้ว “ลูกชุบ”เป็นขนมประจำถิ่นโปตุเกส ซึ่งแพร่หลายเข้ามาสมัยกรุงศรีอยุธยา แต่ถ้าเป็นขนมของโปรตุเกสนั้นเขาจะใช้เม็ดแอลมอลด์เป็นส่วนผสมสำคัญ แต่ในประเทศไทยเราไม่มีจึงใช้เป็นถั่วเขียวแทน และอีกจากข้อมูลกล่าวว่าลูกชุบ แบบชาววัง แต่เดิมไม่ได้ทำจากถั่วกวน แต่ทำจากเนื้อในของเมล็ดแตงโม กระเทาะทีละเมล็ด เอามาป่นให้ละเอียดก่อนนำมากวน แล้วจึงปั้นเป็นรูปผัก หรือผลไม้ต่าง ๆ ขนาดพอคำ ผู้คิดค้นเป็นคนแรกคือ ท่านผู้หญิงเปลี่ยน ภาสกรวงศ์ ส่วนผู้คิดเติมสีธรรมชาติให้ลูกชุบมีสีสันสวยงามเหมือนจริงคือ ม.ล.เติบ ชุมสาย ณ อยุธยา (ที่มาของรายละเอียดข้างบนจาก Gourmet & Cuisine 2006)…ว่าไปแล้ว คนไทยเราสมัยก่อนท่านเก่งมากนะค่ะ ที่นอกจากรังสรรค์ความอร่อยแล้ว ยังมีความคิดสร้างสรรค์ และมีความประณีตใส่ใจในอาหารมากอีกด้วย (คริๆไม่รู้เวอร์ไปหรือเปล่านะ^^)

สำหรับใครที่กำลังมองหาสูตรลูกชุบอร่อยๆอยู่ห้ามพลาดค่ะ…เพราะวันนี้ ได้นำวิธีทำลูกชุบสูตรอร่อยมาไว้ที่นี่แล้ว เป็นสูตรมาจากคุณ Jackie Siranya สมาชิกเฟซบุ้คโพสต์ไว้ในครัวในบ้านอาหารทำเอง เป็นสูตรหวานอร่อยกำลังดี ไม่หวานเกินไป…สูตรและขั้นตอนตามนี้ค่ะ

อุปกรณ์
1. ไม้เสียบลูกชิ้น (ขนาดเล็ก)
2. แผ่นโฟม
3. พู่กันทาสี
4. สีผสมอาหาร
5. ถ้วยสำหรับใส่สี

ส่วนผสมขนมลูกชุบ

  • ถั่วเขียวเลาะเปลือกนึ่งสุก 4 ถ้วย
  • หัวกะทิ 1.5 ถ้วย
  • น้ำเปล่า 1.5 ถ้วย
  • เกลือป่น 1/2 ชช
  • น้ำตาล 1.5 ถ้วย
วิธีทำ
1. นำถั่วเขียวไปแช่น้ำ 3-4 ชั่วโมง
2. แล้วนำไปนึ่งจนสุก
3. นำถั่วไปผสมกับกะทิและน้ำเปล่าแล้วปั่นให้ละเอียด 
4. ตั้งกระทะใช้ไฟกลางค่อนไปทางอ่อน แล้วนำถั่วที่ได้ไปกวนในกะทะ 1 ชั่วโมง และใส่น้ำตาลและเกลือ
5. กวนต่ออีก 1 ชั่วโมง ด้วยไฟกลางค่อนไปทางอ่อน…จนถั่วร่อนอออกจากกะทะและจับไม่เป็นก้อน

ส่วนผสมวุ้นที่ชุบ

  • ผงวุ้น 2 ชต.
  • น้ำเปล่า 2.5 ถ้วย
  • น้ำตาล 2.5 ชต.
วิธีทำ
1. นำผงวุ้นแช่ในน้ำ 20-30 นาที
2. นำขึ้นตั้งไฟคนเรื่อยๆจนเดือดแล้วใส่น้ำตาล สักพักยกลง

วิธีการปั้นลูกชุบ
1. ปั้นให้เป็นก้อนกลมๆเท่าๆกันก่อนนะคะ ประมาณเท่าเหรียญบาท 

2. หลังจากนั้นก็ปรับแต่งให้เป็นรูปทรงต่างๆ 
3. วิธีทำร่องใช้ไม้จิ้มฟันที่เราจะเสียบกด
วิธีการลงสี /ใช้สี 
สามารถใช้สีน้ำผสมอาหารยี่ห้อที่ใช้คือวินเนอร์ และใช้พู่กันเบอร์ 3 หรือ 4 กรณีสีมันเข้มไปให้ผสมน้ำเจือจางค่ะ และไล่สี…ปักทิ้งไว้ให้สีแห้ง ก่อนนำไปชุบวุ้นค่ะ

                                                              วิธีการชุบวุ้น
1. เราจะชุบประมาณ 3-5 ครั้ง (ชุบซัก 3 รอบ กำลังสวยค่ะ) ซ้ำๆไปจนเงางามตามภาพ…ชุบแล้วพักไว้จนลูกชุบเย็น แล้วจึงชุบซ้ำใหม่ไปเรื่อยๆจนครบจำนวนครั้ง
2. ชุบเสร็จก็คว่ำวางเหมือนเดิม
3. หลังจากนั้นก็นำเอาลูกชุบมาถอดไม้จิ้มฟันออกและใช้มีดตัดวุ้นที่ยาวเลยออกมาตามไม้ และตกแต่งติดก้านใบได้เลย ใบที่ใช้ตกแต่งนิยมใช้ใบแก้ว 
 
**แนะนำเพิ่มเติม**

  • ถ้าเวลาปั้นเสร็จแล้วลงสี เห็นเป็นร้อยแตก…อาจเกิดจากโดนลม ดังนั้นอย่าให้ขนมโดนลม จะทำให้ขนมแตก เวลาลงสีจะไม่สวย
  • หรือจะใส่แป้งมัน 1 ช้อน ก็จะช่วยปั้นได้ง่ายขึ้น

ข้าวเหนียวมูน

 

      ย่างเข้าหน้าร้อนแบบนี้ เมนูขนมไทยสุดฮิตที่มาพร้อมความฮอตของอากาศก็ต้องยกให้ข้าวเหนียวมะม่วงเขาล่ะ เมนูขนมที่คนไทยรัก คนต่างชาติหลง แต่ก็รู้ ๆ ว่า ถ้าซื้อข้าวเหนียวมูนกับมะม่วงสุกมากินเอง ราคาแพงนะคะ ทำเองดีไหม ? ฟิน !

 

เพราะเสน่ห์ของข้าวเหนียวมูนหวานหอมที่กินคู่กับผลไม้ตามฤดูกาลต่าง ๆ ก็อร่อยไปเสียหมด ไม่ว่าจะเป็นข้าวเหนียวมะม่วง ข้าวเหนียวทุเรียน หรือจะคู่กับขนมหวาน ๆ อย่างข้าวเหนียวหน้าต่าง ๆ เช่น หน้ากุ้ง สังขยา หน้าปลาก็อร่อยทุกจานจนเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก ชาวต่างชาติต่างยกให้เป็นขนมหวานที่อร่อยที่สุดติดอันดับต้น ๆ เลยทีเดียว วันนี้กระปุกดอทคอมจึงนำเสนอ วิธีทำข้าวเหนียวมูนมาให้ได้ลองทำดูนะคะ

ส่วนผสม ข้าวเหนียวมูน                                                     

         • ข้าวเหนียวขาว 500 กรัม
• สารส้มโขลกละเอียด 1 ช้อนชา
• น้ำสำหรับแช่ข้าวเหนียว
• ใบเตยฉีกแล้วมัดประมาณ 10 ใบ
• หัวกะทิคั้นสด 350 มิลลิลิตร
• น้ำตาลทราย 200 กรัม
• เกลือป่น 2 ช้อนชา

ส่วนผสม ข้าวเหนียวมะม่วง

          • มะม่วงน้ำดอกไม้สุก
          • ข้าวเหนียวมูน
          • กะทิ (สำหรับราด)
          • ถั่วเขียวซีกคั่ว

วิธีทำข้าวเหนียวมูน

• 1. ซาวข้าวเหนียวจนสะอาด ใส่สารส้มลงไป เติมน้ำเปล่าลงไปจนท่วมข้าวเหนียว จากนั้นคนผสมจนเข้ากัน แช่ทิ้งไว้อย่างน้อย 3 ชั่วโมง

• 2. ล้างข้าวเหนียวที่แช่กับสารส้มไว้จนสะอาด สะเด็ดน้ำแล้วพักไว้สักครู่

• 3. เทข้าวเหนียวลงในหวดนึ่งข้าว ใส่ใบเตยลงไป นำหวดไปวางลงในน้ำเดือด นึ่งนานประมาณ 20 นาที จนข้าวเหนียวสุก

• 4. ผสมหัวกะทิกับน้ำตาลทราย และเกลือป่นในอ่างผสมคนจะเข้ากัน เทข้าวเหนียวที่นึ่งสุกแล้วลงไป คนผสมจนเข้ากัน พักทิ้งไว้ 30 นาที จนข้าวเหนียวระอุ พร้อมเสิร์ฟคู่กับมะม่วงน้ำดอกไม้สุก

 ตักข้าวเหนียวมูนร้อน ๆ ใส่จาน จะโปะด้วยสังขยา หน้ากุ้ง หน้าปลา หรือเคียงคู่กับมะม่วงน้ำดอกไม้สุกก็ทำให้มื้ออาหารของคุณครบเครื่องความอร่อยดีจริงเชียว และด้วยความปรารถนาดีเตือนว่าอย่ารับประทานมากเกินไปนะคะ เพราะมีส่วนผสมของกะทิที่เป็นอริกับหุ่นเพรียว ๆ ของสาว ๆ นั่นเองค่ะ

 

 

สูตรข้าวตังหมูหยองหน้าน้ำพริกเผา 

ส่วนผสม

 

  1. ข้าวเจ้าสุก
  2. ข้าวเหนียวสุก
  3. น้ำพริกเผา
  4. น้ำพริกตาแดง
  5. นมข้นหวาน
  6. หมูหยอง
  7. น้ำมันสำหรับทอด

 

วิธีทำ

สำหรับใครที่มีแผ่นข้าวตังอยู่แล้วสามารถข้ามไปทำข้าวตังหน้าหมูหยองได้เลยค่ะ

ทำตัวข้าวตัง

  1. นำข้าวเจ้าสุกและข้าวเหนียวสุกมาผสมกัน และนำมาปั้นเป็นก้อนแบะๆ จนหมด
  2. น้ำข้าวที่ได้ไปคลึงจนเป็นแผ่นบาง แนะนำว่าให้ทำให้บางเท่ากันทั้งแผ่น เพราะเมื่อนำไปทอดจะได้สุกทั่วถึงทั้งแผ่น
  3. นำไปอบให้ข้าวแห้ง โดยใช้ความร้อนประมาณ 200 องศาเซลเซียส เวลา 10-15 นาที หรือในกรณีที่ไม่มีเตาอบสามารถนำข้าวไปตากแดด 2 แดด (หมายถึง 2 วัน) จนแห้ง สามารถใช้ได้เช่นกัน
  4. เมื่อข้าวแห้งดีแล้วจะได้ข้าวตังสำหรับทอดเพื่อทำในขั้นตอนถัดไป

ทำข้าวตังหน้าหมูหยอง

  1. นำน้ำพริกเผา 1 ส่วน นมข้นหวาน 1 ส่วน น้ำพริกตาแดง 1/4 ส่วน ผสมในภาชนะ และขนให้เข้ากัน น้ำพริกตาแดงใส่เข้าไปเพื่อความหอม สำหรับใครไม่มีไม่ต้องใส่ก็ได้ค่ะ
  2. นำข้าวตังไปทอด โดยใช้ไฟปานกลาง น้ำมันพอท่วม นำข้าวลงไปทอดสักพักจนข้าวเหลืองทอง
  3. นำข้าวตังที่ทอดแล้ว พักให้สะเด็ดน้ำมัน
  4. นำน้ำพริกที่ผสมแล้วทาบนข้าวตัง จากนั้นโรยหน้าด้วยหมูหยอง มากน้อยตามความชอบ
  5. นำข้าวตังหน้าหมูหยองพริกเผาเข้าเตาอบอีกรอบ อุณหภูมิ 200 องศาเซลเซียส เวลา 10-15 นาที ตามความเหมาะสม นำข้าวตังมาอบอีกรอบเพื่อถนอมข้าวตังให้กรอบทานได้นานๆ
  6. นำเก็บใส่กล่อง รอจนเย็น ถึงจะปิดฝาเก็บไว้รับประทาน

รูปภาพประกอบ

นำข้าวเจ้าสุกและข้าวเหนียวสุกมาผสมกัน และนำมาปั้นเป็นก้อนแบะๆ จนหมด

 

น้ำข้าวที่ได้ไปคลึงจนเป็นแผ่นบาง แนะนำว่าให้ทำให้บางเท่ากันทั้งแผ่น
เพราะเมื่อนำไปทอดจะได้สุกทั่วถึงทั้งแผ่น

 

ข้าวที่ได้หลังจากรีดเป็นแผ่นบาง ก่อนที่จะนำไปอบหรือตากแดด
นำไปอบให้ข้าวแห้ง โดยใช้ความร้อนประมาณ 200 องศาเซลเซียส
เวลา 10-15 นาที หรือในกรณีที่ไม่มีเตาอบ
สามารถนำข้าวไปตากแดด 2 แดด (หมายถึง 2 วัน) จนแห้ง

 

ส่วนผสมหน้าข้าวตัง น้ำพริกเผา (แม่ประนอม)
น้ำพริกตาแดง (ของฝากจากเชียงใหม่)
หมูหยองนวลจันทร์ (ของฝากจากสกลนคร)
ครีมเทียมข้นหวาน (เรือใบ)

 

ข้าวที่อบจนแห้งแล้ว

 

นำน้ำพริกเผา 1 ส่วน นมข้นหวาน 1 ส่วน น้ำพริกตาแดง 1/4 ส่วน
ผสมในภาชนะ และขนให้เข้ากัน
น้ำพริกตาแดงใส่เข้าไปเพื่อความหอม

 

นำข้าวตังไปทอด โดยใช้ไฟปานกลาง น้ำมันพอท่วม
นำข้าวลงไปทอดสักพักจนได้ข้าวเหลืองทอง
(เราอบข้าวนานไปเวลานำมาทอดขอบเลยไหม้ก่อน
และรีดข้าวบางไม่เท่ากันด้วย
เลยทำให้ตรงกลางข้าวยังพองสุกไม่ทั่ว
ฉะนั้นขั้นตอนการรีดข้าวสำคัญมาก)
นำน้ำพริกที่ผสมแล้วทาบนข้าวตัง จากนั้นโรยหน้าด้วยหมูหยอง มากน้อยตามความชอบ
นำข้าวตังหน้าหมูหยองพริกเผาเข้าเตาอบอีกรอบ อุณหภูมิ 200 องศาเซลเซียส เวลา 10-15 นาที
ตามความเหมาะสม นำข้าวตังมาอบอีกรอบเพื่อถนอมข้าวตังให้กรอบทานได้นานๆ
นำเก็บใส่กล่อง รอจนเย็น ถึงจะปิดฝาเก็บไว้รับประทาน
เสร็จแล้วนะคะ ข้าวตังหมูหยอง เมนูง่ายๆ เป็นของว่างค่ะ